วิธีดู Windows Product Key ด้วย CMD หรือ PowerShell (ไม่ต้องใช้โปรแกรมช่วย)

0

[Update 10 มี.ค. 61]

กรณีไม่สามารถดู Product key ของ Windows ด้วย wmic กับ PowerShell สามารถใช้โปรแกรม Produkey และ ShowKeyPlus ซึ่งเป็นโปรแกรมฟรีทดแทนได้ครับ อ่านรายละเอียด วิธีดู Product Key ของ Windows หรือ Office ด้วยโปรแกรม Free

ดูเหมือนว่าไมโครซอฟท์ไม่ต้องการให้ผู้ใช้ Windows ดูหมายเลขผลิตภัณฑ์ (Product key*) ที่กำลังใช้งานแบบง่ายๆ จึงไม่ได้เตรียมเครื่องมือสำหรับใช้ทำงานดังกล่าวไว้ให้ ผลคือผู้ใช้ต้องใช้โปรแกรมแบบเธิร์ดปาร์ตี้ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการติดมัลแวร์ เนื่องจากโปรแกรมเหล่านั้นบางตัวเป็นหรือมีมัลแวร์แฝงอยู่นั้นเอง ปัญหาคือถ้าหากไม่ใช้โปรแกรมช่วยแล้วจะดูหมายเลขผลิตภัณฑ์ Windows ได้อย่างไร วันนี้ผมมีวิธีการแก้ปัญหาดังกล่าวมาฝากตามรายละเอียดด้านล่างครับ

ถึงแม้ว่าไมโครซอฟท์ไม่ได้เตรียมเครื่องมือสำหรับใช้ดูหมายเลขผลิตภัณฑ์ Windows ไว้ให้โดยตรง แต่คุณสามารถใช้ Windows Management Instrumentation Command-line (WMIC) และ PowerShell ดูหมายเลขผลิตภัณฑ์ Windows ตามวิธีการดังนี้

การดู Windows Product key ด้วย WMIC

วิธีการนี้ต้องรันคำสั่ง WMIC จากคอมมานด์พร้อมท์ และต้องใช้บัญชีกลุ่มผู้ดูแลระบบในการรันคำสั่งครับ โดยการทำงานมีขั้นตอนดังนี้

1. คลิกขวาบนปุ่ม Start แล้วคลิก Command Prompt (Admin) หรือกดแป้นพิมพ์ลัด Windows + X จากนั้นกดปุ่ม A

2. บนหน้า User Account Control (UAC) ให้ป้อนชื่อบัญชีและรหัสผ่านของผู้ใช้กลุ่มผู้ดูแลระบบ เสร็จแล้วคลิก Yes

3. บนหน้าต่างคอมมานด์พร้อมท์ให้คุณป้อนคำสั่งด้านล่าง เสร็จแล้วกดปุ่ม Enter

wmic path softwarelicensingservice get OA3xOriginalProductKey

หากไม่มีอะไรผิดพลาดคุณจะได้รับเลขผลิตภัณฑ์ของ Windows ดังรูปด้านล่าง

รูปที่ 1

การดู Windows Product key ด้วย PowerShell

วิธีการนี้ต้องรันคำสั่งด้วย PowerShell และต้องใช้บัญชีกลุ่มผู้ดูแลระบบในการรันคำสั่งครับ โดยการทำงานมีขั้นตอนดังนี้

1. ทำการเปิด PowerShell (Admin) ตามวิธีการที่คุณถนัด หรือทำการขั้นตอนที่ 1 และ 2 ในวิธีการด้านบน จากนั้นบนหน้าต่างคอมมานด์พร้อมท์ให้คุณป้อนคำสั่ง powershell เสร็จแล้วกดปุ่ม Enter

2. บนหน้าต่างคอมมานด์พร้อมท์ของ Powershell ให้คุณป้อนคำสั่งด้านล่าง เสร็จแล้วกดปุ่ม Enter

powershell “(Get-WmiObject -query ‘select * from SoftwareLicensingService’).OA3xOriginalProductKey”

หากไม่มีอะไรผิดพลาดคุณจะได้รับเลขผลิตภัณฑ์ของ Windows ดังรูปด้านล่าง

รูปที่ 2

ทราบเช่นนี้แล้ว ในครั้งต่อๆ ไปหาก SystemAdmin หรือแม้แต่ผู้ใช้ทั่วไปต้องการดูหมายเลขผลิตภัณฑ์ Windows ของเครื่องตนเอง สามารถทำได้โดยการใช้คำสั่ง WMIC หรือ PowerShell ตามรายละเอียดด้านบน โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่มให้เสียเวลาและเสี่ยงกับการติดมัลแวร์อีกต่างหากครับ

ข้อจำกัดการใช้งาน

วิธีการในบทความนี้ นอกจากจะต้องใช้บัญชีกลุ่มผู้ดูแลระบบในการรันคำสั่งแล้วยังมีข้อจำกัดที่คุณต้องทราบคือ วิธีการนี้ใช้ได้กับ Windows เวอร์ชันขายปลีก (Retail) และติดตั้งจากโรงงาน (OEM) เท่านั้น ไม่สามารถใช้กับเวอร์ชันโวลุ่มไลเซนส์ (รันคำสั่งได้แต่ไม่แสดงเลขผลิตภัณฑ์ของ Windows) และจากการทดสอบของผมเองใช้กับ Windows 10 Insider Preview ไม่ได้เช่นกันครับ

ดูอย่างไรว่า Windows 10 เป็นเวอร์ชันโวลุ่มไลเซนส์

(23 ธ.ค.60)
วิธีการดูว่า Windows 10 ที่ใช้ว่าเป็นเวอร์ชันโวลุ่มไลเซนส์ เวอร์ชันขายปลีก หรือเวอร์ชันโออีเอ็มที่ติดตั้งจากโรงงาน ทำได้โดยการรรันคำสั่ง slmgr.vbs /dli ที่คอมมานด์พร้อมท์ หากบนหน้า Windows Script Host มีข้อความ VOLUME_MAK channel หรือ VOLUME_KMS channel แสดงว่า Windows 10 ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันโวลุ่มไลเซนส์ครับ (ซึ่งดูหมายเลขผลิตภัณฑ์ด้วยวิธีการในบทความนี้ไม่ได้)

* ไมโครซอฟท์ได้ให้คำจำกัดความของ Product Key หรือหมายเลขผลิตภัณฑ์ (หรือว่ารหัสผลิตภัณฑ์) ไว้ดังนี้
หมายเลขผลิตภัณฑ์คือหมายเลข 25 หลักที่ใช้ในการเปิดใช้งาน Windows การเปิดใช้งานจะช่วยตรวจสอบว่าไม่มีการใช้งาน Windows ในพีซีเครื่องอื่นนอกเหนือจากที่เงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้สิทธิสำหรับซอฟต์แวร์ของ Microsoft อนุญาตไว้

หมายเลขผลิตภัณฑ์ของคุณอยู่บนบัตรที่อยู่ด้านในของกล่องบรรจุดีวีดี Windows หรือในอีเมลที่แสดงว่าคุณซื้อ Windows แล้ว โดยมีลักษณะดังนี้: PRODUCT KEY: XXXXX-XXXXX-XXXXX-XXXXX-XXXXX ถ้าคุณซื้อพีซีที่มี Windows ติดตั้งไว้ล่วงหน้า ให้ติดต่อผู้ผลิตพีซีเพื่อขอหมายเลขผลิตภัณฑ์ต้นฉบับ (ที่มา: Microsoft)

เครดิต: เทคนิคในเรื่องนี้มีที่มาจากเว็บไซต์: The Windows Club

ประวิัติการปรับปรุง
10 มีนาคม 2561: ปรับปรุงเนื้อหา
23 ธันวาคม 2560: แก้ไขคำผิก, ปรับปรุงเนื้อหา
4 กรกฎาคม 2559: เผยแพร่ครั้งแรก

Share This
Facebooktwitterredditpinterestlinkedinmailby feather
Share.

Comments are closed.