วิธีเปิด Enhanced Session Mode บน Hyper-V Host เพื่อให้ VM ใช้ทรัพยากรของโฮสต์

0

วันนี้มีวิธีการเปิด Enhanced Session Mode บนโฮสต์ Hyper-V เพื่อให้ Virtual Machine (VM) สามารถเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ บนโฮสต์ เช่น ไดรฟ์ ยูเอสบีแฟลช์ไดรฟ์ เครื่องพิมพ์ และ ฯลฯ ได้มาฝากครับ

ใช้ Enhanced Session Mode ในสถานการณ์ใด?

การเปิดใช้งาน Enhanced Session Mode นั้นมีประโยชน์ในสถานการณ์ต่างๆ ดังนี้

  • สามารถใช้แก้ไขปัญหาเดียวกับ VM โดยไม่ต้องใช้ระบบเครือข่าย
  • ก็อปปี้และวางไฟล์จากโอสต์ลง VM หรือจาก VM ลงโฮสต์ ได้เหมือนกับการใช้ Remote Desktop Connection (RDP)
  • สามารถล็อกอินเข้า VM โดยใช้ สมาร์ทการ์ดได้
  • สามารถพิมพ์งานจาก VM ออกทางเครื่องพิมพ์ได้
  • ทดสอบและแก้ไขปัยหาในการพัฒนาแอปพลิเคชันซึ่งต้องการอุปกรณ์ยูเอสบีและการเปลี่ยนทิศทางเสียงโดยไม่ต้องใช้ RDP

ความต้องการระบบในการใช้ทรัพยากรบน Hyper-V host

การที่ VM จะเข้าใช้งานทรัพยากรบนโฮสต์ Hyper-V นั้นต้องการระบบขั้นต่ำดังนี้

  1. โฮสต์ Hyper-V เปิดใช้ Enhanced session mode policy และตั้งค่า Enhanced session mode เป็น On
  2. โฮสต์ Hyper-V ที่ใช้ VMConnect ต้องเป็น Windows 10, Windows 8.1, Windows Server 2016 หรือ Windows Server 2012 R2
  3. VM ต้องเปิดใช้ Remote Desktop Services และระบบปฏิบัติการเกสต์ต้องเป็น Windows 10, Windows 8.1, Windows Server 2016 หรือ Windows Server 2012 R2

ถ้าโฮสต์ Hyper-V ที่ใช้ VMConnect และ VM achine both meet the requirements, จากนั้นจะสามารถจะเข้าใช้งาน local resources ต่างๆ ดังนี้

  • การตั้งค่าแสดงผล
  • ออดิโอ
  • เครื่องพิมพ์
  • คลิปบอร์ดสำหรับการก็อปปี้และวาง
  • สมาร์ทการ์ด
  • อุปกรณ์ยูเอสบี
  • ไดรฟ์
  • รองรับอุปกรณ์ plug and play
  • ปรับขนาดหน้าต่าง VMConnect

การเปิด enhanced session mode บน Hyper-V host

ปกติ Hyper-V Server มีฟีเจอร์ enhanced session mode ซึ่งทำให้ VM เข้าถึงทรัพยากรต่างๆ บนโฮสต์ให้มาพร้อมแล้ว

โดยในกรณีที่โฮสต์ Hyper-V เป็น Windows 10 หรือ Windows 8.1 ฟีเจอร์ Enhanced session mode จะถูกเปิดใช้งานโดยดีฟอลท์ ผู้ใช้จึงไม่ต้องดำเนินการใดๆ ในการใช้งานฟีเจอร์นี้

แต่ถ้าหากโฮสต์ Hyper-V เป็น Windows Server 2016 หรือ Windows Server 2012 R2 ฟีเจอร์นี้จะไม่ได้ถูกเปิดใช้งานโดยเริ่มต้น นั้นหมายความว่า ถ้าผู้ใช้ต้องการใช้งานฟีเจอร์นี้ จะต้องทำการเปิดใช้งานฟีเจอร์ Enhanced Session Mode ด้วยตนเองตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. ล็อกอินเข้าเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นโฮสต์ Hyper-V จากนั้นทำการเปิดเครื่องมือ Hyper-V Manager

2. ในหน้าต่าง Hyper-V Manager ให้คลิกขวา Hyper-V Server (ในที่นี้คือ HYPERV01) จากนั้นเลือก Hyper-V settings

3. ในหน้าต่าง Hyper-V Settings ภายใต้หัวข้อ Server ให้เลือก Enhanced Session Mode Policy

4. ภายใต้หัวข้อ Enhanced Session Mode Policy ด้านขวามือ ให้เลือก Allow enhanced session mode

5. ยังคงอยู่ในหน้าต่าง Hyper-V Settings โดยภายใต้หัวข้อ User ด้านซ้ายมือ ให้เลือก Enhanced Session Mode

6. จากนั้นภายใต้หัวข้อ Enhanced Session Mode ด้านขวามือ เลือก Use enhanced session mode เสร็จแล้วคลิก OK

การเข้าใช้งานทรัพยากรบน Hyper-V Host

วิธีการเข้าใช้งานทรัพยากรต่างๆ เช่น ไดรฟ์ แฟลชไดรฟ์ เครื่องพิมพ์ ฯลฯ ที่อยู่บนโฮสต์ Hyper-V มีขั้นตอนดังนี้

1. ล็อกอินเข้าเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นโฮสต์ Hyper-V แล้วเปิด VMConnect จากนั้นในหน้าต่าง Virtual Machine Connection ให้เลือก VM ที่ต้องการเชื่อมต่อแล้วคลิก OK

ปกติ VMConnect จะเก็บอยู่ที่ C:\ProgramData\Microsoft\Windows\Start Menu\Programs\Hyper-V Management Tools

2. ในหน้าต่าง Connect to VM_Name ให้เลือก VM ให้คลิก Show Options

3. ในหน้าต่าง Connect to VM_Name ให้คลิกเลือกแท็บ Select Resources จากนั้นคลิก More

4. ในหน้าต่าง Local Resources เลือกไดรฟ์หรืออุปกรณ์บนโฮสต์ที่ต้องการใช้หรือเข้าถึงจากภายใน VM เสร็จแล้วคลิก OK

5. ในหน้าต่าง Connect to VM_Name ให้คลิก Connect แล้วทำการล็อกอินเข้า VM

[ออปชัน] ถ้าหากต้องการบันทึกการตั้งค่าสำหรับใช้งานในครั้งต่อไป ให้เลือก Save my settings for future connections to this virtual machine

6. หลังจากทำการล็อกอินเข้า VM เสร็จแล้ว จากนั้นสามารถเข้าถึงไดรฟ์หรืออุปกรณ์ที่เลือกในขั้นตอนที่ 4 ได้ในทันที

ตัวอย่างเช่น การเข้าถึงไดรฟ์จากใน VM นั้นทำได้โดยการเปิด File Explorer แล้วเลือกหัวข้อ Devices and drives จะได้หน้าต่างลักษณะดังรูปด้านล่าง

การแก้ไขการตั้งค่า Virtual Machine Connection

กรณีที่เลือกออปชัน Save my settings for future connections to this virtual machine ไว้แล้วต้องการแก้ไขการตั้งค่า VMConnect สามารถทำได้โดยการรันคำสั่ง VMConnect.exe /edit จากคอมมานด์พร้อมท์หรือโดยการกดปุ่ม Windows + R และป้อนคำสั่งในช่อง Open เสร็จแล้วคลิก OK

เมื่อ:
ServerName คือ ชื่อโฮสต์ Hyper-V (ตัวอย่างนี้ คือ hyperv01)
VMName คือชื่อ Virtual Machine (ตัวอย่างนี้ คือ Virtual Machine 1)

แหล่งอ้างอิง
Microsoft

ประวัติการปรับปรุง
28 กันยายน 2560: เผยแพร่ครั้งแรก

Share This
Facebooktwitterredditpinterestlinkedinmailby feather
Share.

Comments are closed.