ฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 10 Version 1803 (สำหรับผู้ใช้ทั่วไป)

0

หลังจากทำการอัปเดต Windows 10 เป็นเวอร์ชัน 1803 (หรือที่รู้จักในชื่อ April 2018 Update หรือ Spring Creators Update) เสร็จเรียบร้อย ผมจึงลองตรวจสอบดูว่าในเวอร์ชันใหม่ล่าสุดนี้มีฟีเจอร์ใหม่อะไรเพิ่มขึ้นมาบ้าง ซึ่งพบว่ามีฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้ทั่วไปหลายตัวที่น่าสนใจสนจึงรวบรวมมาฝากผู้อ่านครับ

มีอะไรใหม่ใน Windows 10 Version 1803 (สำหรับผู้ใช้ทั่วไป)

ฟีเจอร์ใหม่และการปรับปรุงการทำงานที่น่าสนใจใน Windows 10 เวอร์ชัน 1803

Timeline

Timeline ฟีเจอร์ใหม่สำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่สำคัญที่สุดในเวอร์ชัน 1803 ก็ว่าได้ มันเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราสามารถตรวจสอบแอปที่เคยใช้งานในอดีตได้นานสูงสุด 30 วัน โดยกิจกรรมทั้งหมดจะแสดงในรายการเรียงตาม วัน/ชั่วโมง โดยสามารถเลื่อนตัวสไลด์ลงไปด้านล่างเพื่อตรวจสอบกิจกรรมที่ทำก่อนหน้าได้ และยังสามารถทำการลบการบันทึกกิจกรรมทั้งหมดได้อีกด้วย

ฟีเจอร์ Timeline จะอินทีเกรทการทำงานเข้ากับ Task view การเปิดใช้งาน Timeline ทำได้โดยคลิก Task view บนแถบงาน จากนั้นเลื่อนตัวสไลด์ลงไปยังวันที่ต้องการ

อย่างไรก็ตาม การที่จะให้ฟีเจอร์ Timeline บันทึกการทำงานได้ 30 วันนั้น จะต้องทำการไซน์อินเข้าระบบด้วยบัญชีไมโครซอฟท์ เช่น บัญชี Outlook.com หรือ Hotmail.com

Fluent Design

Windows 10 เวอร์ชัน 1803 มีการออกแบบโดยใช้แนวคิด Fluent Design ซึ่งให้ความสำคัญกับการเคลื่อนที่และแสงมากขึ้น มีเอฟเฟ็ค highlight และเลเยอร์เพิ่มขึ้น มีการใช้วัสดุอะครีลิคทำให้มีความลึกและโปร่งแสง และมีความสวยงามขึ้น

Edge

Edge ใน Windows 10 เวอร์ชัน 1803 มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง ได้แก่

Autofill cards: ในทุกครั้งที่ผู้ใช้ทำการกรอกข้อมูลฟอร์มใน Edge มันจะแสดงพร้อมท์ให้บันทึกข้อมูล และใช้ข้อมูลดังกล่าวเป็น Autofill Card
Clutter-free printing: เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้การพิมพ์หน้าเว็บทำได้ง่ายขึ้นและลดความสับสน โดยเราสามารถเปิดฟีเจอร์ clutter free ได้จากในหน้าพิมพ์งาน
Improved hub view: เมื่อเปิด Microsoft Edge ในโหมดเต็มหน้าจอ มันจะยังคงแสดง address bar และ Hub View จะแสดงเนื้อหามากขึ้น
อืน ๆ: นอกจากนี้ ยังสามารถรัน Edge ในโหมด InPrivate และสามารถปิดเสียง (Mute) เฉพาะแท็บที่ต้องการได้อีกด้วย

Cloud Clipboard

Windows 10 เวอร์ชัน 1803 เพื่มฟีเจอร์ Cloud Clipboard ซึ่งทำให้เราสามารถทำการก็อปปี้และแปะระหว่างอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (Connected devices) ทั้งจากสมาร์ทโฟนและพีซีได้

Cortana

Cortana ใน Windows 10 เวอร์ชัน 1803 เพิ่มฟีเจอร์ Cortana Collection ซึ่งทำให้ Cortana เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เกี่ยวกับผู้ใช้เพิ่มมากขึ้นและช่วยเหลือในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านั้นได้ ผู้ใช้สามารถเลือกเรื่องที่โปรด เช่น ร้านอาหาร หนังสือ รายการทีวี และเก็บไว้ใน Organizer นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังปรับปรุงฟีเจอร์ Cortana Notebook อีกด้วย

Fonts ใน Microsoft Store

Windows 10 เวอร์ชัน 1803 เพิ่มการติดตั้งฟอนท์ใหม่จาก Store ซึ่งในขณะที่เขียนเรื่องนี้มีฟอนท์ให้เลือกดาวน์โหลดไม่มากนักคือประมาณ 10 ฟอนท์ แต่ไมโครซอฟท์มีแผนที่จะเพิ่มจำนวนฟอนท์มากขึ้นในอนาคต

การจัดการฟอนท์ทำได้จากหน้า Settings > Personalization > Fonts ซึ่งสามารถดูตัวอย่างฟอนท์ในรูปแบบที่รองรับ (regular, black, bold, italic and bold italic for the Arial font) และยังอนุญาตให้ปรับน้ำหนักและความกว้างของฟอนท์บางตัว เช่น Bahnschrift ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังออกธีมใหม่ใน Store จำนวนหลายธีมด้วยกัน

Diagnostic Data

ความเป็นส่วนตัวเป็นเรื่องสำคัญ โดย Windows 10 เวอร์ชัน 1803 นั้นได้ปรับปรุงให้ผู้ใช้ควบคุมความเป็นส่วนตัวได้มากขึ้น โดยการเพิ่มออปชัน One-click data deletion สำหรับลบข้อมูล telemetry ได้ในคลิกเดียว

โดยเข้าไปที่ Settings > Privacy > Diagnostics & Feedback จากนั้นลงไปที่หัวข้อ delete diagnostic data จากนั้นคลิกปุ่ม Delete

อย่างไรก็ตาม สำหรับการลงชื่อเข้าโดยใช้บัญชีไมโครซอฟท์ เช่น outlook.com หรือ hotmail.com นั้น ข้อมูลส่วนตัวบางอย่างจะต้องเข้าไปลบจากหน้า privacy dashboard ของไมโครซอฟท์

Focus Assist

Focus Assist เป็นอีกฟีเจอร์ใหม่ในเวอร์ชัน 1803 สำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่น่าสนใจ การตั้งค่าใหม่นี้ทำให้เรามีสมาธิกับการทำงานโดยไม่ถูกรบกวนจากการแจ้งเตือนของ Windows

การตั้งค่า Focus Assist ให้เข้าไปที่ Settings > System > Focus Assist โดยมีตัวเลือกการตั้งค่า 3 แบบ คือ Off ซึ่ง Windows 10 จะทำการแจ้งเตือนตามปกติ Priority only ซึ่ง Windows 10 จะทำการแจ้งเตือนตามระดับความสำคัญที่กำหนดไว้ใน Priority list และ Alarm only ซึ่ง Windows 10 จะทำการแจ้งเตือนภัยอันตราย

Language Settings

Windows 10 เวอร์ชัน 1803 นอกจากให้ดาวน์โหลดฟอนท์จาก Store ได้แล้วยังเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าภาษา ( language settings) แล้วยังเพิ่ม speech recognition, text-to-speech และ ฯลฯ

Password Recovery

Windows 10 เวอร์ชัน 1803 ยกระดับความปลอดภัยด้วยเครื่องมือ Password recovery ใหม่ ที่ให้ผู้ใช้เพิ่มคำถามความปลอดภัย (security questions) เข้ากับบัญชีได้ ทำให้การกู้คืนรหัสผ่านที่ลืมทำได้ง่ายขึ้น

Startup Tasks

Windows 10 เวอร์ชัน 1803 เพิ่มหัวข้อ Startup ในหน้า Setting สำหรับใช้ควบคุมการทำงานของแอปที่รันโดยอัตโนมัติโดยไม่จำเป็นต้องเปิด Task manager

วิธีการใช้งานฟีเจอร์ใหม่นี้ เข้าไปที่ Settings > Apps > Startup จากนั้นทำการตั้งค่าการทำงานโดยเริ่มต้นแอปที่ต้องการเป็น ปิด (Off) หรือ เปิด (On)

App-by-app GPU management

บนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มี GPU จำนวน 2 ตัวหรือมากกว่า นั้นปกติแอปจะให้ Windows เป็นผู้ตัดสินใจว่าจะให้ใช้งาน GPU ตัวไหนซึ่งทั่วไปแล้ว Windows จะเลือกแอปใช้ GPU ตัวที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานสูงที่สุด อย่างไรก็ตามในบางสถานการณ์ ผู้ใช้อาจต้องการเลือกใช้ GPU ให้กับแอปเอง ซึ่งใน Windows 10 เวอร์ชัน 1803 ไมโครซอฟท์เพิ่มออปชันสำหรับใช้กำหนด GPU ให้กับแอปแต่ละตัวได้ ซึ่งช่วยประหยัดแบตเตอรี่สำหรับการใช้งานบนเครื่องโน้ตบุ๊ค

วิธีการใช้งานฟีเจอร์ใหม่นี้ เข้าไปที่ Settings > Display จากนั้นคลิก Graphics settings แล้วเลือกตั้งค่าตามความเหมาะสม

ปรับปรุง Game Bar

Game Bar ใน Windows 10 เวอร์ชัน 1803 ได้รับการปรับปรุงใหญ่หลายจุด เช่น เพิ่มนาฬิกา สวิทช์แบบท็อกเกิลสำหรับเปิด/ปิดไมค์และกล้องแบบ สามารถแก้ไขไตเติลการสตรีมได้

Swift Pair: On-demand Bluetooth pairing

Windows 10 เวอร์ชัน 1803 ปรับปรุงการจับคู่อุปกรณ์ Bluetooth ได้ง่ายขึ้น โดยเพิ่มฟีเจอร์ Swift Pair โดยเมื่อ Windows ตรวจพบการร้องขอจับคู่มันจะทำการแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ทราบ ซึ่งผู้ใช้สามารถคลิก Connect จากการแจ้งเตือนเพื่อทำการจับคู่ได้ในทันที

อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ Swift Pair นี้ไม่เหมาะกับการใช้ง้านในสถานที่สาธารณะอย่างเช่น สนามบิน เนื่องจากมีอุปกรณ์ Bluetooth จำนวนมากจึงอาจทำให้เกิดการอนุญาตให้อุปรณ์ผิดตัวที่อาจนำมาซึ่งการเสี่ยงต่อการเกิดข้อมูลสัวตัวรั่วไหลได้

ปรับปรุง Settings ระบบเสียง

ก่อน Windows 10 เวอร์ชัน 1803 การตั้งค่าเสียงจะอยู่กระจัดกระจายในหลายที่ ทำให้การตั้งค่าเกี่ยวกับเสียงไม่ค่อยสะดวก แต่ในเวอร์ชัน 1803 ไมโครซอฟท์ได้ย้ายการตั้งค่าเสียงมายู่รวมกันใน Settings โดยสามารถใช้ทำการตั้งค่าเสียงทุกอย่างรวมถึงแอป UWP ได้จากภายใน Settings

วิธีการใช้งานฟีเจอร์ใหม่นี้ เข้าไปที่ Settings > Sound จากนั้นในหัวข้อ Other sound options ให้คลิก App volume and device preference แล้วเลือกตั้งค่าตามความเหมาะสม

Autocorrect/autosuggest สำหรับคีย์บอร์ดแบบฮาร์ดแวร์

Windows 10 เวอร์ชัน 1803 เพิ่อฟีเจอร์ที่มีบนสมาร์ทโฟน autocorrect และ autosuggest สำหรับการพิมพ์ด้วยคีย์บอร์ด (ฮาร์ดแวร์) และแบบเดียวกับที่มีในคีย์บอร์ด (ซอฟต์แวร์) บนแท้ฐเล็ต Windows
วิธีการใช้งานฟีเจอร์ใหม่นี้ เข้าไปที่ Settings > Devices > Typing จากนั้นทำการเปิด auto-correct เป็น On

ทดสอบการทำงานได้โดยการพิมม์ข้อความใน Word ซึ่ง Windows จะทำการแสดงคำแนะนำให้เมื่อเราพิมพ์ข้อความ ซึ่งเราสามารถเลือกคำที่แนะนำโดย Windows ได้ถ้าตรงกับคำที่ต้องการพิมพ์

ปรับปรุงการสนับสนุนจอภาพแบบ HDR

Windows 10 เวอร์ชัน 1803 ได้เพิ่มสำหรับใช้เปิด/ปิดการรองรับจอภาพแบบ HDR และปรับแต่ง processing power เพื่อเพิ่มคุณภาพการแสดงผล

รวมถึงการปรับเทียบหน้าจอ โดยการคลิก Chamge calibration settings for HDR video ซึ่งสามารถใช้ปรับแต่งความสว่างของจอภาพ

ปรับปรุงแอป MyPeople

Windows 10 เวอร์ชัน 1803 ได้เพิ่มจำนวนเพื่อนสนิทที่สามารถปักหมุดไว้บน taskbar เป็น 10 คน (ในเวอร์ชัน 1709 สามารถปักหมุดเพื่อนสนิทบน taskbar ได้เพียงแค่ 3 คน) และในเวอร์ชัน 1803 นี้ เพื่อนที่ไม่ได้อยู่ในแถบงานจะซ่อนตัวอยู่ใต้ไอคอน MyPeople

เพิ่มประสิทธิภาพ Windows for Workstations

Windows 10 Pro สำหรับ Workstations เป็นรุ่นไฮ-เอ็นด์ของ Windows 10 ที่สนับสนุนฮาร์ดแวร์ระดับเกรดเซิร์ฟเวอร์ ที่ออกแบบมาสำหรับภารกิจสำคัญและงานที่ต้องคำนวณหนัก Windows 10 เวอร์ชัน 1803 นี้ไมโครซอฟท์ปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นโดยการเพิ่มการตั้งค่า “high performance” ซึ่งจะลด micro-latencies ที่เกี่ยวข้องกับเทคนิคที่ใช้ในระบบ power management แต่การตั้งค่าเป็น high performance นั้นจะใช้พลังงานเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

อ่านเพิ่มเติม Windows 10 Pro สำหรับ Workstations

แหล่งอ้างอิง
The Windows Club
PC World

ประวัติการปรับปรุงบทความ
12 พฤษภาคม 2561: เผยแพร่ครั้งแรก

Share This
Facebooktwitterredditpinterestlinkedinmailby feather
Share.

Comments are closed.