หลังจากผมทำการอัปเดต Samsung Galaxy A7 (2017) เป็น Android 8 Oreo ก็พบลักษณะการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงไปและประเด็นปัญหาบางอย่าง จึงนำมาแบ่งปันเพื่อเป็นแนวทางแก้ไขสำหรับคนที่อัปเดตแล้ว และเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการติดสินใจสำหรับคนที่ยังไม่ได้อัปเดต ครับ
ปัญหาที่พบหลังการ Samsung Galaxy A7 (2017) เป็น Android 8 Oreo
หลังการอัปเดต Samsung Galaxy A7 (2017) เป็น Android 8 Oreo ผมพบความเปลี่ยนแปลงและประเด็นปัญหาดังนี้
1. Smart Capture บันทึกไฟล์เป็นฟอร์แมต JPG
ก่อนการอัปเดต Samsung Galaxy A7 (2017) เป็น Android 8 Oreo การจับภาพหน้าจอด้วย Smart Capture จะบันทึกไฟล์เป็นฟอร์แมต PNG แต่หลังจากอัปเดต Smart Capture จะบันทึกไฟล์เป็นฟอร์แมต JPG
สำหรับปัญหานี้ไม่กระทบปัญหาการใช้งานอะไร แต่ถ้าหากต้องการเซ็ตการการจับภาพหน้าจอเป็นไฟล์ PNG จะต้องใช้แอปตัวอื่น เช่น Screen Master
2. มีปัญหากับแอป OneDrive
หลังการอัปเดต Samsung Galaxy A7 (2017) เป็น Android 8 Oreo ระบบจะขึ้นแจ้งเตือน OneDrive is using battery เป็นระยะ (ก่อนอัปเดตไม่มีการแจ้งเตือนลักษณะนี้)
ปัญหาที้สามารถแก้ไขได้โดยให้แตะการแจ้งเตือน จากนั้นบนหน้า Apps using the battery ให้แตะ BLOCK THIS NOTIFICATION
3. UI แอป Camera เปลี่ยนแปลง
หลังการอัปเดต Samsung Galaxy A7 (2017) เป็น Android 8 Oreo เมื่อเปิดแอป Camera แล้วจะรู้สึกมึนๆ งงๆ เพราะมีการเปลี่ยนแปลง UI ใหม่ และจุดที่สร้างความงงมากที่สุดสำหรับผมคือการเปลี่ยนโหมด (Mode) และการใส่เอฟเฟ็กต์ (Effect) เนื่องจากไม่มี UI ให้ใช้งานเหมือนตอนที่เป็นเวอร์ชัน Android 7 (Nougat)
Swipe to Switch
Samsung Galaxy A7 (2017) เป็น Android 8 Oreo นั้นจะใช้ Swipe to Switch เพื่อเปลี่ยนโหมดหรือการเลือกเอ็ฟเฟ็กต์
สำหรับวิธีการเลือกโหมดกล้องถ่ายรูปบน Samsung Galaxy A7 (2017) หลังอัปเดตเป็น Android 8 Oreo นั้นทำได้โดยบนหน้าแอป Camera ให้ปัดหน้าจอไปทางด้านขวา
สำหรับวิธีการเลือกใส่เอฟเฟ็กต์กล้องถ่ายรูปบน Samsung Galaxy A7 (2017) หลังอัปเดตเป็น Android 8 Oreo นั้นทำได้โดยบนหน้าแอป Camera ให้ปัดหน้าจอไปทางด้านซ้าย
ทั้ง 3 ประเด็นนี้ เป็นสิ่งที่ผมพบหลังจากทำการทำการอัปเดต Samsung Galaxy A7 (2017) เป็น Android 8 Oreo ครับ
ประวัติการปรับปรุงบทความ
9 กรกฎาคม 2561: เผยแพร่ครั้งแรก






